กำลังดาวน์โหลด

Log in

ค้นหาขั้นสูง
ค้นหาตามเนื้อหา
  • Archives
เลย์เอาต์
แสดง:
บันทึก

แสดงผลการค้นหา: 281 ไฟล์ 

 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บ (สแกนภาพ) มาจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ... 
 
 
ภาพเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2553 ข้าราชการเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี หลังเหตุการณ์เผาศาลากลาง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พยายามจะบุกเข้าไปในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการปิดล็อคกุญแจทางเข้าทุกด้าน พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร กว่า 2 กองร้อย คอยตรึงกำลังอยู่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องขนยางมาเผาบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และประตูทุกด้านของศาลากลาง รวมถึงหน้า อบจ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีด้วย ตลอดเวลากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะหาทางเข้าไปภายในให้ได้ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกยิงล้มลง 3 ราย จนต้องรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมโมโห ลุกฮือพยายามจะบุกเข้าไปให้ถึงอาคารศาลากลางจังหวัดให้ได้ ประกอบกับเสียงของนายพิเชษฐ ทาบุดดา ดีเจต้อย ได้ประกาศผ่านรายการวิทยุเสียงประชาชน คลื่น 91.0 Mhz. ว่าทหารยิงพวกเราที่ไปชุมนุมที่ศาลากลาง ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประกาศระดมมวลชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถพังประตูรั้วเข้าไปจนได้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไปเผาห้องทำงานชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นห้องพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ห้องประชุมมิตรไมตรี 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารต่างล่าถอยไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในศาลากลางที่อพยพขนย้ายทรัพย์สินที่สำคัญ ออกไปจากศาลากลางตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่พยายามจะเข้ามาฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลามก็ถูกมวลชนต่อต้าน ขวางปาก้อนหิน จุดประทัดไล่จนต้องทิ้งรถล่าถอยออกมา แล้วรถดับเพลิงก็ถูกจุดไฟเผาเสียหายไปด้วยเช่นกัน กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มไฟที่โหมลุกไหม้อยู่ที่ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็ลุกลามขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ของศาลากลาง ระหว่างนั้นก็ได้มีการชักชวนมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุ 91.0 Mhz. ก็ได้มีการระดมมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมอ้างว่าขณะนี้ชาวเสื้อแดงอุบลราชธานี ถูกทหารยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน ขณะที่ภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีเสียปืนดังขึ้นเป็นระยะๆตลอด 2 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 15.40 น. ก็ได้มีเสียงประกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ 91.0 Mhz. อีกครั้งหนึ่งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถอนกำลังออกมาจากศาลากลางก่อน เพื่อมาช่วยกันปกป้องสถานี หลังมีรายงานข่าวว่าได้มีการขนกำลังทหารจะมาปิดสถานีของเรา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศาลากลางทยอยออกจากศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่สถานีวิทยุ91.0 Mhz. ที่บ้านนิคม ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถเข้าฉีดน้ำดับไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีได้ ภาพดังกล่าว พหจ.สพป. ได้จัดเก็บจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัดอุบ...